จุดหมายน่าเที่ยวในยุโรปสำหรับผู้หลงใหลบรรยากาศคริสต์มาส
ตามปกติแล้วช่วงฤดูหนาวของหลายประเทศในทวีปยุโรปถือว่าเป็นช่วง low season เพราะนอกจากอากาศจะหนาวเหน็บให้ความรู้สึกหดหู่ไม่เหมาะแก่การท่องเที่ยวแล้ว ช่วงเวลากลางวันที่สั้นกว่าปกติยังทำให้มีเวลาเที่ยวได้น้อยลงอีกด้วย อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวหลายคนก็นิยมเลือกเดินทางไปในช่วงเดือนธันวาคมต่อต้นมกราคม เหตุผลหลักๆ คืออยากสัมผัสบรรยากาศแห่งการเฉลิมฉลองช่วงเทศกาลคริสต์มาสซึ่งไม่ใช่ว่าทุกเมืองจะครึกครื้นเหมือนกันหมด ดังนั้น “เที่ยวเอง” จึงคัดสรรจุดหมายที่เหมาะไปดื่มด่ำช่วงเวลาแห่งความสุขไว้สำหรับเป็นตัวเลือกให้กับผู้หลงใหลเทศกาลนี้กันครับ
เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี (Munich, Germany)
ด้วยการตกแต่งดวงไฟอย่างยิ่งใหญ่อลังการกว่า 3,000 ดวงของตลาดคริสต์มาสใจกลางเมือง Munich เมืองใหญ่ในรัฐบาวาเรีย ทางใต้ของประเทศเยอรมนีที่จัดขึ้นที่บริเวณ Marienplatz ศูนย์กลางเมืองที่รายล้อมด้วยอาคารสวยงามสไตล์โกธิค ทำให้ตลาดกลางแจ้งที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศแห่งนี้เป็นจุดหมายยอดนิยมอย่างมาก และคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายทั้งชาวเมืองและนักท่องเที่ยว
กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย (Vienna, Austria)
โดยทั่วไป เทศกาลจัดงานเฉลิมฉลองคริสต์มาสในกรุง Vienna เมืองหลวงของประเทศออสเตรีย เริ่มตั้งแต่ราวกลางเดือนพฤศจิกายนไปจนถึงวันคริสต์มาส โดยจัดขึ้นบริเวณ Rathausplatz หรือจัตุรัสด้านหน้าอาคารที่ว่าการเมืองอันงดงาม ตลาดกลางแจ้งแห่งนี้คึกคักสว่างไสวด้วยแสงไฟที่ตกแต่งอย่างคลาสสิค รวมทั้งร้านค้ากว่า 150 ร้านที่ขายสินค้าน่ารักๆ เกี่ยวกับเทศกาลคริสมาสต์ให้ได้เลือกซื้อกันอย่างจุใจ
เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ (Helsinki, Finland)
อย่างที่ทราบกันว่าฟินแลนด์คือดินแดนต้นกำเนินตำนานซานต้าครอสที่เกี่ยวโยงกับเทศกาลคริสต์มาสโดยตรง ตลาดกลางแจ้งที่ Senate Square ใจกลางกรุง Helsinki คือจุดนัดพบหลักที่เรียงรายไปด้วยซุ้มร้านค้ามากมายซึ่งประดับประดาอย่างงดงาม โดยสามารถเลือกซื้อสินค้าได้หลายตั้งแต่งานทำมือแบบฟินนิชดั้งเดิม สินค้าดีไซน์เก๋ไก๋ตามสไตล์ฟินแลนด์ยุคใหม่ ไปจนถึงอาหารและเครื่องดื่มร้อนช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กับร่างกายท่ามกลางอากาศต่ำกว่าจุดเยือกแข็ง
บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม (Brussels, Belgium)
ความครึกครื้นของคริสต์มาสมาร์เก็ตซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ ปีที่จัตุรัส Place Sainte-Catherine ในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวงของประเทศเบลเยียม เลื่องชื่อมาเป็นเวลานาน โดยให้ความรู้สึกเหมือนได้เข้าร่วมปาร์ตี้ขนาดย่อมที่สนุกสนานด้วยขบวนพาเหรดและการแสดงต่างๆ อันน่าชม พร้อมลิ้มลองอาหารตำรับเบลเจี้ยนมากมายตลอดสองข้างทางของถนน
ปราก สาธารณรัฐเช็ก (Prague, Czech Republic)
ตามปกติในกรุง Prague เมืองหลวงของสาธารณรัฐเช็ค มีการจัดเทศกาลคริสต์มาสบริเวณจัตุรัสสำคัญ 2 แห่ง คือ บริเวณ Staroměstské náměstí หรือจัตุรัสเมืองเก่า และ Václavské náměstí หรือจัตุรัสเมืองใหม่ ซึ่งเปี่ยมด้วยมนต์สะกดฉบับชาวเช็คที่นิยมดื่มเบียร์แกล้มบรรยากาศหนาวเย็น รวมทั้งเพลิดเพลินกับร้านขายสินค้าท้องถิ่นและอาหารอร่อยมากมาย
โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก (Copenhagen, Denmark)
ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส บรรยากาศในสวน Tivoli ใจกลางเมืองหลวงของประเทศเดนมาร์กนั้นน่าดึงดูดราวเมืองเวทมนตร์ในเทพนิยาย ด้วยการตกแต่งแสงไฟรอบบริเวณสวนที่เปลี่ยนไปทุกปี อีกทั้งการแสดงต่างๆ ที่เน้นแสงสียามค่ำคืน จึงช่วยเพิ่มลูกเล่นและความลงตัวให้กับสวนสนุกแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี บวกกับอากาศหนาวเย็นที่เหมาะพาคู่รักไปสวีทช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้กันและกัน
ซาลส์บวร์ก ประเทศออสเตรีย (Salzburg, Austria)
ตลาดคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรปอยู่ที่เมืองแห่งโมซาร์ตอย่าง Salzburg เมืองท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งของประเทศออสเตรีย ซึ่งมีการจัดเทศกาลเฉลิมฉลองมายาวนานตั้งแต่ศตวรษที่ 15 นอกจากแสงไฟแล้ว ภายในบริเวณยังเน้นการตกแต่งด้วยดอกไม้และเทียนสีสันสดใส ซึ่งช่วยเพิ่มความรู้สึกโรแมนติกให้กับเหล่าคู่รักได้ดีเยี่ยม
สตราสบูร์ก ประเทศฝรั่งเศส (Strasbourg, France)
ในแต่ละปี เทศกาลคริสต์มาสที่จัดกินเวลายาวนานที่สุดอยู่ที่เมือง Strasbourg เมืองท่องเที่ยวสำคัญในแคว้น Alsace ทางตะวันออกของประเทศฝรั่งเศส ใกล้กับพรมแดนเยอรมนี โดยจัดกันยาวนานเป็นเดือน ทำให้ตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมกราคมกลายเป็นช่วงเวลาที่ผู้คนแน่นขนัดตลอด โดยส่วนมากแล้วนิยมเดินทางมาเลือกซื้อสินค้าทำมือในธีมคริสต์มาสที่มีรายละเอียดแตกต่างกันไปในทุกปี
เดรสเดน ประเทศเยอรมนี (Dresden, Germany)
ตลาด Dresden Striezelmarkt แห่งเมือง Dresden ทางตะวันออกของประเทศเยอรมนี ได้ชื่อว่าเป็นตลาดคริสต์มาสที่จัดขึ้นต่อเนื่องมายาวนานที่สุดของประเทศ โดยจัดขึ้นมาตั้งแต่ปี 1434 ไฮไลท์ของที่นี่ คือ ต้นคริสต์มาสความูง 45 ฟุตที่ตกแต่งเปลี่ยนไปทุกปี รวมทั้ง stollen ขนมปังไส้ผลไม้รวมที่เป็นของทานเล่นขึ้นชื่อในเมืองซึ่งเป็นขนมโปรดของอดีตกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองอย่าง August the Strong
อย่างที่รู้กันว่าหากจะไปเที่ยวในยุโรป เกือบทั้งหมดต้องทำวีซ่าเชงเก้นเพื่อเข้าประเทศ โดยหนึ่งในหลักฐานที่ใช้ประกอบการยื่นขอวีซ่าก็คือ “ประกันเดินทาง” ที่ได้รับการรับรองจากแต่ละสถานทูต
ถ้ากำลังจะยื่นขอวีซ่าเชงเก้น หรือมีแผนเดินทางไปเที่ยวที่ไหน ขอแนะนำประกันเดินทางของ AXA นอกจากจะมีความน่าเชื่อถือสูง ได้รับรางวัลแบรนด์ประกันอันดับ 1 ของโลกถึง 10 ปีซ้อน มีบริการช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงไม่ว่าอยู่ที่ไหนในโลกก็ตาม มีแผนความคุ้มครองหลากหลาย สำหรับผู้ที่ขอวีซ่าเชงเก้น ไม่ว่าจะเป็น
- แผน PLUS-LITE
- แผน GOLD
- แผน PLATINUM
- แผน EMERALD (แนะนำแผนนี้ เพราะความคุ้มครองสูงสุดถึง 5,000,000 บาท)
ที่สำคัญ AXA การันตี ยื่นวีซ่าไม่ผ่านคืนเงิน 100% อีกด้วย คลิกซื้อประกันการเดินทางได้ที่นี่ คลิก
และสามารถซื้อทางออนไลน์ได้ง่ายๆ และโปรโมชั่นจากทาง AXA ไม่ว่าจะเป็น ดูรายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ https://www.axa.co.th/promotions-for-exclusive-customers เดินทางอย่างมั่นใจ เลือกประกันภัยการเดินทางจาก AXA
______________________________________________________________________________________________
ขอบคุณข้อมูลจาก tieweng