ค้นหาศูนย์บริการและสาขา เช็คราคา
icon-ask-question
ค้นหาศูนย์บริการและสาขา

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

อีเมลไม่ถูกต้อง

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

ไข้เลือดออก โรคฮิตหน้าฝน ระบาดไว อันตรายทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

ไข้เลือดออก โรคฮิตหน้าฝน ระบาดไว อันตรายทั้งเด็ก และผู้ใหญ่

ในช่วงหน้าฝนที่มาพร้อมกับสภาพอากาศชื้นแฉะ ทำให้ยุงลายเพาะพันธุ์และระบาดได้ง่ายขึ้น หนึ่งในโรคที่พบระบาดอย่างรุนแรงในช่วงนี้คือ “ไข้เลือดออก” ซึ่งเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โรคนี้อาจดูเหมือนไม่ร้ายแรงในตอนแรก แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้ ในบทความนี้เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับโรคไข้เลือดออกในทุกแง่มุม ตั้งแต่สาเหตุ อาการ การป้องกัน ไปจนถึงการเตรียมตัวรับมือกับค่ารักษาโรคไข้เลือดออกด้วยแผนประกันสุขภาพที่ครอบคลุม 

ไข้เลือดออก (Dengue fever) คือ 

ไข้เลือดออก (Dengue fever) คือ

ไข้เลือดออก (Dengue fever) เป็นโรคติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) ซึ่งมียุงลายเป็นพาหะนำโรค ยุงลายตัวเมียที่ติดเชื้อไวรัสนี้จะแพร่เชื้อผ่านการกัดคน เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 3 – 14 วันก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการ ไข้เลือดออกเป็นโรคที่พบมากในประเทศเขตร้อนและเขตอบอุ่น โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน เป็นปัญหาสุขภาพพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจำนวนมากอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ปี  

สถิติโรคไข้เลือดออกของคนไทย 

สำหรับสถิติการแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในประเทศไทย จากรายงานของกรมควบคุมโรคพบว่ามีผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกสูงขึ้นในทุกๆ ปี และคาดว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ที่มีอัตราการระบาดสูงได้แก่ ภาคใต้ และภาคกลาง 

ไข้เลือดออก สาเหตุเกิดจากอะไร? 

ไข้เลือดออกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสเดงกี (Dengue virus) โดยมียุงลายตัวเมียเป็นพาหะนำโรค ซึ่งไวรัสเดงกีมี 4 สายพันธุ์ ได้แก่ DENV-1, DENV-2, DENV-3 และ DENV-4 เมื่อยุงลายตัวเมียที่มีเชื้อไวรัสกัดและปล่อยเชื้อเข้าสู่ร่างกายของคน ร่างกายจะใช้ระยะเวลาฟักตัวเชื้อประมาณ 3-14 วัน ก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการของโรค  

ไข้เลือดออก อาการเป็นอย่างไร 

อาการของไข้เลือดออกสามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ตามความรุนแรงของอาการ 

อาการไข้เลือดออก ระยะแรก (2 – 7 วัน)  

ในระยะแรก ผู้ป่วยจะมีอาการไข้สูงทันที มักมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส และอาจมีอาการปวดหัว ปวดตามกล้ามเนื้อและกระดูก อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร รวมถึงอาการคลื่นไส้อาเจียน บางรายอาจมีผื่นขึ้นทั่วร่างกาย 

อาการไข้เลือดออก ระยะวิกฤติ (24 – 48 ชั่วโมง)  

ระยะวิกฤตินี้เกิดขึ้นเมื่อไข้เริ่มลดลง แต่อาการจะทรงตัว ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อนอาการจะเริ่มดีขึ้น แต่ถ้ามีภาวะแทรกซ้อนอาการจะแย่ลง ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเลือดออก เช่น มีเลือดออกตามไรฟัน จมูก หรือมีจุดเลือดออกใต้ผิวหนัง มือเท้าเย็น ชีพจรเต้นเบาลง ความดันต่ำ อาเจียนเป็นเลือดหากไม่ได้รับการรักษาทันเวลา อาจเสี่ยงต่อการเสียชีวิต 

อาการไข้เลือดออก ระยะฟื้นตัว (หลังไข้ลด 24 – 48 ชั่วโมง)  

หลังจากผ่านระยะวิกฤติแล้ว ผู้ป่วยจะเริ่มฟื้นตัวในช่วงนี้ โดยอาการไข้และความอ่อนเพลียจะค่อย ๆ ลดลง ผื่นที่เกิดขึ้นจะค่อย ๆ จางหาย ผู้ป่วยจะต้องพักผ่อนและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็วขึ้น  

ปัจจัยเสี่ยงของโรคไข้เลือดออก 

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้บุคคลมีโอกาสติดเชื้อไข้เลือดออกมากขึ้น ได้แก่: 

  1. สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการแพร่พันธุ์ของยุงลาย: ยุงลายพาหะนำโรคไข้เลือดออก มักแพร่พันธุ์ในแหล่งน้ำขัง เช่น บ่อน้ำที่ไม่ได้ดูแล ยางรถยนต์เก่า ภาชนะที่มีน้ำขัง ซึ่งเป็นเหตุให้ช่วงฤดูฝนเกิดการแพร่ระบาดของยุงลายมากขึ้น 
  2. ฤดูกาลและสภาพอากาศ: ฤดูฝนเป็นช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกมากขึ้น เนื่องจากมีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการแพร่พันธุ์ของยุงลาย 
  3. พื้นที่ที่มีการระบาดบ่อยครั้ง: ในบางพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคไข้เลือดออกบ่อยครั้ง จะมีโอกาสสูงขึ้นในการติดเชื้อ 
  4. ขาดความรู้ความเข้าใจเรื่องการป้องกัน: การขาดความรู้ในการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงหรือการป้องกันตนเองจากยุงลาย อาจเพิ่มโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นโรค 

การป้องกันตัวจากปัจจัยเสี่ยงเหล่านี้ด้วยการกำจัดแหล่งน้ำขังและการใช้ยากันยุงจะช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไข้เลือดออกได้ 

การป้องกันโรคไข้เลือดออก 

  • กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย: หมั่นตรวจสอบและกำจัดน้ำขังบริเวณรอบบ้าน เช่น จานรองกระถางต้นไม้ ภาชนะเก็บน้ำ หรือยางรถเก่าที่มีน้ำขัง เพื่อป้องกันการเพาะพันธุ์ของยุงลาย 
  • ป้องกันตนเองจากการถูกยุงกัด: ใช้ยาทากันยุง สวมเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกาย หรือใช้มุ้งกันยุงขณะนอน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มียุงชุกชุม 
  • ใช้สารเคมีควบคุมยุง: ใช้สารเคมีพ่นกำจัดยุงลาย เช่น การพ่นหมอกควัน หรือการใช้ทรายอะเบทเพื่อป้องกันการฟักไข่ของยุงในแหล่งน้ำขัง 
  • ร่วมมือกับชุมชนในการป้องกัน: ร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุขและชุมชนในการจัดกิจกรรมทำความสะอาดพื้นที่ เพื่อลดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงอย่างต่อเนื่อง 
  • ฉีดวัคซีนป้องกัน: ฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก เพื่อช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ 

เป็นไข้เลือดออกต้องจ่ายค่ารักษาเท่าไหร่ 

ค่ารักษาโรคไข้เลือดออกจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ และสถานพยาบาลที่รับการรักษา หากเป็นกรณีที่ต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ค่าใช้จ่ายอาจเริ่มต้นตั้งแต่หลัก 1,000 จนถึงหลัก 10,000 บาท หากผู้ป่วยมีอาการรุนแรงและต้องเข้ารับการรักษาในห้องไอซียู ค่าใช้จ่ายอาจสูงขึ้นไปอีกหลายเท่า ตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยที่ต้องพักรักษาตัวเป็นจำนวน 3 วัน จะมีค่ายา ค่าน้ำเกลือ ค่าเวชภัณฑ์ ค่าห้องปฏิบัติการ ค่าเอกซเรย์ ค่าห้องพัก ค่าตรวจรักษา และอื่น ๆ อีกมากมาย รวมแล้วค่าใช้จ่ายในการรักษาตลอด 3 วัน อยู่ที่ 50,000 บาท (โดยทุกกรณีของผู้ป่วยค่าใช้จ่ายอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่ที่ดุลพินิจของแพทย์และความรุนแรงของอาการ) ถือว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่สูงมาก ๆ หากไม่มีประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อนมาช่วยเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ 

เตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษาเมื่อตรวจพบโรค ไข้เลือดออก ด้วยแผนประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อน เจอ จ่าย จบ จาก AXA Insurance

เตรียมความพร้อมเรื่องค่ารักษาเมื่อตรวจพบโรค ไข้เลือดออก ด้วยแผนประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อน เจอ จ่าย จบ จาก AXA Insurance

การเตรียมพร้อมรับมือกับโรคไข้เลือดออกไม่เพียงแค่การป้องกันตัวเองจากยุงลาย แต่ยังรวมถึงการเตรียมความพร้อมทางด้านการเงินสำหรับค่ารักษาในกรณีที่เกิดการติดเชื้อ แผนประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อน เจอ จ่าย จบ จาก AXA Insurance จ่ายเงินก้อน สูงสุดถึง 30,000 บาทจ่ายเบี้ยเริ่มต้นเพียง 146 บาท ต่อปี สมัครง่าย ไม่ต้องตรวจสุขภาพ สำหรับใครที่อยากทำประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อนให้ลูกน้อยก็สามารถสมัครได้ โดยไม่ต้องพ่วงผู้ปกครอง นอกจากนี้ สามารถนำเบี้ยประกันโรคร้ายจากยุงไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้สูงสุดถึง 25,000 บาท (ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด) 

หมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่าย หากโรคร้ายมาเยือนด้วยแผนประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อนจาก AXA Insurance สามารถเลือกซื้อแผนประกันได้อย่างสะดวกสบายผ่านช่องทางออนไลน์ รับความคุ้มครอง พร้อมรับกรมธรรม์ผ่านทางอีเมลทันที หากสนใจประกันโรคร้ายจากยุง และโรคเขตร้อนสามารถดูแผนประกันได้ที่นี่ หรือติดต่อเราเพื่อสอบถามและรับคำปรึกษาเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แอกซ่า : 02 118 8111 

ติดตามเรื่องราวดี ๆ จาก แอกซ่าประกันภัย  ได้ที่ 

Website: www.axa.co.th 

ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์แอกซ่า โทร: 02-118-8111     

Facebook: AXA Thailand 

Line: @AXAThailand 

 

*ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง 

 

แหล่งอ้างอิง: 

  1. กรมควบคุมโรค. "โรคไข้เลือดออก." สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/disease_detail.php?d=44
  2. โรงพยาบาลกรุงเทพ. "ป้องกันไข้เลือดออก." สืบค้นจาก https://www.bangkokhospital.com/content/prevention-of-dengue-fever
  3. กรมควบคุมโรค. "เผยสถานการณ์ไข้เลือดออกเพิ่มขึ้น 1.9 เท่า ของปีที่ผ่านมา" สืบค้นจาก https://ddc.moph.go.th/brc/news.php?news=40542&deptcode=brc
  4. โรงพยาบาลเปาโล. “เปิดบิลค่ารักษา เตือนใจอย่าให้ตัวเองป่วย” สืบค้นจาก
    https://www.paolohospital.com/th-th/center/Article/Details/Article/เปิดบิลค่ารักษา-เตือนใจอย่าให้ตัวเองป่วย