ขับรถเที่ยว ฮอกไกโด กับ ครอบครัวก่อนฤดูร้อน
เอาหละ Hokkaido กำลังเตรียมตัวเข้าสู่หน้าร้อนแล้ว หลายๆคนคงวางแผนไปเยี่ยมชมดอกไม้นานาชนิดกันอยู่แถว Furano ดังนั้นเราไม่ขอพูดมากถึงแถวๆนี้เพราะทุกคนคงรู้ดีกันอยู่แล้วนะ เอาเป็นว่าวันนี้เราจะพาไปชมเมืองอื่นๆบ้างว่านอกจากมาชมดอกไม้แล้วที่นี่จะมีอะไรให้เราทำบ้าง
ทริปนี้เราเน้นขับรถเอง ทำกิจกรรมแบบครอบครัว พาพ่อแม่เที่ยว เน้นสบายๆ ไม่รีบ เนอะ…ช่วงที่เราไป Explore กันมาเป็นช่วงตั้งแต่สิ้น เมษายน ถึง ต้น พฤษภาคม และ คาบเกี่ยว Golden week ของชาวญี่ปุ่นพอดี ( อีกแล้ว ครั้งก่อนเราไปลุยโตเกียว www.go-graph.com/2016/05/japan_goldenweek ) เอาเป็นว่าจะไปช่วงไหน ฤดูไหนก็ดู วัน/เวลาเปิด–ปิด กันให้ดีๆเน้อ
เราขอแบ่งเป็นโซนในการเที่ยวตามแผนที่บนลงล่างนะ
Asahikawa-shi
01.Asahidake Ropeway, Daisetsuzan National Park Ropewel
ที่นี่เน้นแบบเป็นชมวิวและธรรมชาติ แต่ช่วงที่เราไปยังเป็นปลายหนาว(สิ้นเมษายน)เราเลยได้ชมวิวหิมะแทน เสียดายมากที่ไม่ได้เตรียมชุดSnowboardมา คือหิมะยังนุ่มและไม่ละลายเลย เราแอบเห็นครอบครัวญี่ปุ่นยังพากันมาเล่นอยู่เลย
ค่าขึ้นกระเช้า
Regular season (Oct 21 – May 31) Round Trip 1,800 yen
Peak Season (June 1 – Oct 20) Round Trip 2,900 yen
ตามที่รีเซิจมา เมนูชื่อดังของที่นี่ คือ ซุปต้นหอม ภาพก็บอกต้นหอมล้วยๆ น้ำซุปเป็นแบบใสๆอร่อยสมใจ
ตามมาด้วย ราเม็งหอยโฮตาเตะ – Hotate อันนี้ขอแนะนำเอง คือดีงามตั้งแต่หน้าตาและรสชาติ เค็มๆใสๆมันๆ เส้นก็อร่อยนะ
03. Kaguraoka Park
ในเมืองนี้นอกจากแหล่งของกินกลางเมืองแล้วยังมี Parkให้เดินเล่นชิวๆด้วย ระหว่าง Park สองฝั่งจะมีแม่น้ำ Chubetsu River ขั้นกลาง
เราสามารถเดินข้ามสะพานไปมาได้ ถ้าใครไปช่วงสิ้นพฤษภาคม ได้ชมซากุระในสวนด้วย เหมาะสำหรับคนชอบCampingและสัตว์ป่า
Shiragane
01.Blue Pond
บึงน้ำสีฟ้า สามารถมาชมได้ในหลายๆฤดูนะ แต่ขอเตือนไว้ก่อนนะว่าของจริงก็มีเท่าในภาพนะ เราเลยใช้วิธีมาพักโรงแรม Onsen แถวๆนี้ซะเลยจะได้ไม่รู้สึกดั้นด้นจนเกินไป
เราพักที่นี่ > https://goo.gl/QQWJ1s
02.Shirahige Waterfall
ความดีงามอีกอย่างที่พักแถวๆนี้ทำให้เราได้ไปชมน้ำตกใกล้ๆที่พักเลยจ้า
03.Fukiage Open Air Hot Spring
ถ้าหากแช่ Onsen ที่โรงแรมยังไม่จุใจ ใครอยากจะออกไปลอง Onsen แบบสาธารณะ พร้อมวิว Open Air ก็ฟินไปอีกแบบนะ
นี่คือทางเข้า ต้องใช้ความพยายามกันนิดนึงถึงจะไปถึงจุดดีงามได้ (ระวังลื่นนะคะ)
แต่เท่าที่เราไปสังเกตการณ์ คือแบบ มีแต่คุณลุงผู้ชายนะคะ ถ้าสาวๆลงไปอาจจะไม่เหมาะ นึกภาพตามแบบแช่น้ำแล้วมีผ้าขนหนูผืนเดียว คือคิดไม่ออกเลยว่าจะเอาผ้ามาบังตาตัวเอง หรือ บังข้างล่างดี?เอาเป็นว่าไปชมวิวได้ (เราถ่ายจากระยะไกลไม่อยากให้ติดอะไรมาด้วย อิอิ)
Furano
01.Yuiga Doxon (Omelette Curry Rice)
คือเหตุเกิดจากความหิวของสมาชิกในครอบครัวที่เดินทางไปด้วยกัน เลยลองเชิจในเว็ป (www.tabelog.com) ก็เลยเจอร้านนี้หน้าตาแบบเห็นแล้วสตั้นนิดหน่อยแบบว่าถูกที่ใช่ไหมเนี่ย แต่พอเข้าไปข้างในใจชื้นเลยอร่อยแน่นอน
เมนูมีไม่มาก ง่ายๆ แต่เด็ดดวงทั้งคุณภาพและปริมาณ ราคาจานละประมาณ1510-2160เยน
อันนี้คือ Omelette Curry with Ox Tongue เราสั่งเป็นข้าวแกงกะหรี่หน้าไข่ และAdd onลิ้นวัวแทน
ส่วนเมนูแบบเต็มแม็กคือเยอะไปมากกก มี Bacon, Homemade Sausage on Top เข้าไปอีกกก
อันนี้เครื่องดื่ม Spiced Tea อารมณ์แบบนมๆซินนามอน (450 yen)
หาพิกัดได้ในนี้ > www.tabelog.com/en/hokkaido/A0104/A010403/1000063/
02.Furano Cheese Factory
ไม่มีไรมาก เราเน้นกิน มีทั้งพิซซ่า ร้านไอติม และช็อปขายผลิตภัณฑ์ ซื้อฝากของเค้าพวกแบบ นม ชีสต่างๆ
อันนี้Asparagus Ice creamแปลกดี
มีให้ชิมชีสฟรีไรงี้
03.Popura Farm
ต้องบอกก่อนว่าช่วงที่เราไปแถวนี้ค่อนข้างแห้งแล้ง เป็นช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดู คือไม่หนาวจนเกินไป แต่ดอกไม้ ผลไม้ยังไม่ขึ้นไง!
โชคดีที่มีร้านนี้เปิดเราเลยได้ชวนพ่อแม่ไปลิ้มรสไอติมเมล่อน – Melon Ice Cream งี้
04.Campana Rokkatei Cafe
ร้านนี้ก็ดีงามมม ทั้งวิวและขนม ตัวร้านเป็นกระจกใสเห็นวิวไร่องุ่นมีให้เลือกนั่งทั้งข้างนอกและข้างใน
ส่วนขนมหวานเป็นแบบญี่ปุ่นโบราณและโมเดิ้ลผสมกัน
ใครที่ชอบกินกาแฟก็คงจะฟินเพราะเค้าเสิร์ฟกาแฟฟรี เทเองได้เลย แค่มาสั่งขนมเค้าก็พอ
ส่วนใครอยากซื้อกลับบ้านก็มีของฝากของกินแพคเกจจิ้งกุ๊กกิ๊กตามสไตล์เสียตังค์(อีกแล้ว)ให้เลือกสรรค์
ลืมบอกว่าถ้าใครไม่ใช่สายหวาน เว้งนี้ก็มีอีกร้านอาหารนะ น่าจะเป็นพวกชาบูเนื้อๆไรงี้
Date
01.Edo Wonderland, Noboribetsu Date Jidai Mura
ที่นี่สำหรับเราเหมือนเป็น Live Museumขนาดย่อมที่พาเราย้อนไปช่วง Edo ทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในสมัยนั้น
บ้านกลไกลของนินจา –Ninja’s Houseและ ชมโชว์นินจา –Ninja’s Show
บ้านผีโบราณ –Japanese Haunted Houseสามารถเดินถ่ายรูปรอบๆได้เลย
แถมมีตัวCharacterต่างๆอย่างนินจา –Ninjaและ สาวโออิรัน –Oiranให้เราเข้าไปขอถ่ายรูปด้วยได้
นอกจากนั้นก็มีตารางกิจกรรมชมโชว์ได้ตลอดทั้งวัน ใช้เวลาประมาณครึ่งวันก็หมดแล้ว ขนาดไม่ได้ใหญ่มากแต่ก็สนุกดี เหมาะกับทุกเพศทุกวัยนะ
ราคาบัตรเข้า
ข้อมูลเพิ่มเติม > www.edo-trip.jp/lng_english
02.Shinshitei, Soba Restaurant
ออกมาจาก Edo Wonderland ด้วยความหิวโหย เราก็เลยเซิจดูว่าแถวนี้มีอะไรกิน มาเจอร้านSobaใกล้ๆหน้าตาแบบคนถิ่นกินกัน เราเลยรีบเข้าไปทันที (เมนูนี้โซบะเย็น)
เมนูเรียบง่ายเช่นเดียวกับการแต่งร้าน มีแต่ Soba แค่เลือกเครื่องที่จะเอาอะไรมาโป๊ะหน้านี่แหละ กับ เอาแห้งหรือนำ้ จบ (เมนูนี้ โซบะร้อนหน้าเห็ด)
จะว่าเรียบง่ายก็ไม่ซะทีเดียว หากลองเมนูนี้ (เมนูนี้ โซบะร้อนหน้าอูนิ – Uni Soba with Soup)
03.Midorinokaze Resort Kitayuzawa
ความดีงามที่ต้องพูดถึงจริงๆ คือ โรงแรมนี้มีอาณาจักร Onsen ซ่อนอยู่ เสียใจที่เอารูปมาฝากไม่ได้(ห้ามถ่ายรูปใน Onsen นะจ๊ะ)แต่ลองจินตนาการตามนะ
ที่ตั้งของโรงแรมอยู่ห่างไกลความเจริญประมาณนึง (45-60 นาที) โรงแรมไม่มีกิจกรรมอะไรให้ทำเป็นพิเศษนอกจากเลือกว่าวันนี้จะแช่บ่อแบบ Indoor บ่อไหนดี รสชาติไหน สีอะไร (Eg. Green Tea, Sakura, Seasonal Scent) จนไปถึงบ่อ Outdoor ด้านนอกที่เห็นแล้วต้องสตั้นอะ พูดเลย!
กรุณาเข้าไปชม > https://goo.gl/QI2KWT
ความน่ารักของBuffetญี่ปุ่นคือทำPortionเล็กมากกกก ให้เราได้เลือกกินให้ครบทุกอย่าง มาพร้อมจานที่แบ่งเป็นช่องๆ เรียกว่าตักไปสนุกไปกับการจัดจานของตัวเอง
Buffet ที่นี่มีมุมอาหารสำหรับเด็กน้อยด้วยนะ น่ารักดี ทำเท่าความสูงเด็กๆตักเองได้เลย ส่วนผู้ใหญ่อย่างเราสามารถไปแจมได้ด้วย แต่อาจจะปวดหลังหน่อยนะ ฮ่าๆ
สนใจเข้าไปชมที่พัก > https://goo.gl/QI2KWT
04.Toya Lake
ช่วงวันที่ไปอากาศดีมากกก เหมาะสำหรับการมากับครอบครัว คือเลือกมาพักใกล้ๆที่ท่องเที่ยว เดินเล่นรอบLakeชิวๆพักผ่อนหย่อนใจไม่มีอะไรมาก มาถ่ายรูป ใครจะไปปั่นเป็ดก็ยังได้
05.The Lake View Toya Nonokaze Resort
Hi-lightของโรงแรมญี่ปุ่นใกล้ที่ท่องเที่ยว เราวัดกันอยู่2อย่างคือ Onsen กับ อาหาร ที่นี่ Onsen ไม่ใหญ่มาก แต่วิวดีคืออยู่บนดาดฟ้า นั่งแช่แบบ Outdoor มองวิว Toya Lake เลยจ้า ชีวิตดีจิจิ
ห้องอาหารใหญ่อลังการ เป็น Buffet ทุกมื้อ ส่วนตอนเย็นมีเนื้อสเต็กร้อนๆให้ต่อคิว คนยาวเหยีดและอร่อยมาก (มัวแต่ไปต่อคิว เลยอดเอาภาพมาฝากนะ อิอิ)
ส่วน Hi-light เสริมของโรงแรมย่านนี้ก็ คือ มีจุดพุให้ชมช่วง 20.30 โรงแรมเราดีงามสามารถดูจากห้องได้เลยงี้
ห้องนอนก็ดีงามอยู่เป็นครอบครัวแบบ 4 คน แบ่งเป็นนอนเตียง 2 นอนฟูก Futon 2 โดยมีผนังกั้นไว้ สำหรับสมาชิกที่นอนกรน ฮ่าๆ พร้อมระเบียงส่วนตัวไว้จิปกาแฟชิวๆ หรือ ไว้ชมพุก็ได้จ้า
ที่พัก > https://goo.gl/AD8Bb9
Niseko
01.Niseko Village
เมืองนี้เหมาะกับคนต้องการมาทำกิจกรรมแหละ โดยเฉพาะหน้าหนาว หมู่บ้านตรงนี้เป็นโซนของกินที่ตั้งอยู่ข้างๆโรงแรม Hilton (เดาว่าโรงแรมคงสร้างแหล่งท่องเที่ยวให้ตัวเองอะ ไม่ใช่หมู่บ้านโบราณโชว์วิถี Local แบบที่เราจินตนการไปเองนะ)
เข้าไปชมโรงแรมได้ > https://goo.gl/UKnB8q
มีร้านของกินประมาณ8ร้าน เช่น ซูชิ –Sushiปิ้งย่าง –BBQ
นี่เราไปกิน King Crab มีทั้งชาบู และ ปิ้งย่าง
02.Milk Kobo Factory
สถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆก็จะมีที่นี่ขายของกิน เน้นขนม ไอติม ของหวานเป็นหลัก แต่ก็มีBuffetอาหารกลางวัน (Prativo –ミルク工房) ด้วยนะ (ได้ข่าวมาว่าอร่อย แต่เราไม่ได้ทาน)
เวลาเปิด–ปิดห้องอาหาร
11:30-15:30 (Last Order 14:30)
17:30-21:30 (Last Order 20:00)
www.winedineniseko.com/ja/niseko-restaurants/prativo
www.facebook.com/pages/Prativo/236338133082453
03.Grand Hirafu Snowboarding
เราได้ขึ้นไปเล่นอันนี้ หลายคนคงสงสัยว่า ช่วงปลายเมษา ต้นพฤษภา ยังมีหิมะให้เล่นอยู่อีกหรอ คำตอบก็คือมีค่า (ตามภาพ) แต่มันเริ่มละลายแล้วนะ แฉะๆ หน่อย อารมณ์แบบสเลอบี้ละลายอะ แต่ถามว่ายังสนุกอยู่ไหม สำหรับเราแน่นอนค่ะ ดีกว่าไม่ได้เล่นนะ555
สำหรับมื้อกลางวันเค้ามีให้ทานบนนั้นนะ มันจะมีโรงอาหารให้เติมพลังบนนั้นเลยไม่ต้องลงมาข้างล่างค่ะ
ข้อดีคือ ราคาบัตรค่าขึ้นกระเช้า ก็ถูกตามลงมาด้วยเพราะเป็น End of Season แล้ว
แนะนำว่าใครอยากมาเล่นก็ซื้อเป็น Day Pass ไปเลยกำลังดี กว่าจะขึ้นลงแต่ละรอบก็เป็นชั่วโมงอยู่นะ มีเสียค่ามัดจำบัตร นิดหน่อย เล่นเสร็จก็เอาบัตรหยอดตู้ได้เงินคืนได้ที่ร้านเช่าอุปกรณ์ได้เลยค้า
ส่วนถ้าใครมาเพื่อสิ่งนี้โดยเฉพาะเค้าก็มีบัตรแบบ 3 วัน ราคาเหมาๆ จะข้ามระหว่าง ยอดเขาก็มีให้เลือก (สามารถไปตัดสินใจเอาหน้างานได้)
ส่วนร้านเช่าเราก็เลือกเอาใกล้ๆโรงแรมจะได้คืนง่ายๆหน่อย แต่ถ้ามาสายไม่ทันเค้าปิดร้านไปแล้ว ก็แจ้งเค้าก่อนว่าเราพักโรงแรมแถวนั้น เค้าจะได้ไม่ตกใจเนอะ
เวลาเปิด–ปิด : ประมาณ 8:20-16:30 www.grand-hirafu.jp/winter/en/gelande/lift.html
โรงแรมที่เราเลือกพัก > https://goo.gl/Ql8Eg1 *เพิ่มเติม เราเลือกที่พักนี้เพราะอยู่ติดกับ An’nupuri Moutain เพื่อตั้งใจว่าจะสะดวกไปเล่น Snowboarding ง่ายๆ ปรากฏว่าวันที่เราจะเล่น ยอดเขาฝั่งนี้ปิด(แล้วแต่วันมากๆ ต้องคอยเช็คตอนเช้า) เราต้องไปเล่นอีกฝั่งนึง (อุตส่าห์วางแผนไว้)
ที่ Niseko จะมีทางขึ้นกระเช้าขึ้นไปเล่นสกีได้หลักๆ 3 ฝั่ง แต่ละฝั่งก็ของใครของมัน ไม่ได้ติดกันนะ Annupuri / Grand Hirafu / Hanazono เราก็สามารถเลือกเอาตามเนินเขาที่อยากเล่น และ Resort ที่อยากไปพักได้จ้า
04.Hilton golf
มาถึงกิจกรรมของพ่อแม่บ้าง เรากับพี่ไปเล่น Snowbaord ส่วนพ่อแม่ก็เลยมาตีกอล์ฟบ้าง สนามนี้เป็นของHiltonพ่อแม่บอกสนามสวยใช้ได้เลย อุปกรณ์ทุกอย่างไม่ต้องแบกมาจากไทยนะคะ มีให้เช่าหมด (อาจจะแค่เอาถุงมือมาเองเบาๆก็ได้)
ราคาค่าตี : ประมาณ 11,000 yen/คน
กรุณาโทรจองสนามล่วงหน้านะ (พ่อแม่เกือบไม่ได้ตี เพราะเพิ่งอยากมาเล่นหน้างาน)
http://www3.hilton.com/en/hotels/japan/hilton-niseko-village-CTSNVHI/golf/index.html
05.Niseko Loft Club, Ghengis Kah- lamb & Beef BBQ
หลังจากที่เราๆออกกำลังกายกันมาทั้งวัน หลังเล่นเสร็จคือหิวมากกกก แบบต้องการโปรตีนอย่างแรง เราก็แหวก Google Map ดู เจอร้านนี้รีวิว ดี รีบต่อสายตรง(โทรโรมมิ่งเลยข่าา)กลัวไม่ได้กิน โทรไปจองตอน4โมง ได้โต๊ะตอน2ทุ่ม แต่ก็คุ้มค่ากับการรอคอยนะคะ ทีเด็ดคือ Ghengis Kah Lamb ต้องจองก่อนนะค้า ส่วนราคาน่ารัก แต่ตัวเหม็นมากก ฮ่าๆ
เวลาเปิด/ปิด: 17:30-21:30 (Last Order 20.30) www.experienceniseko.com/restaurants-bars/niseko-loft-club
Ounma
01.Aowbagaoka Park, White Cheery Blossom
ด้วยความที่เราไปช่วง Early ของ Cheery Blossom จะบานทั่วญี่ปุ่น ทำให้หลายๆที่ๆอยากไปชมดอกซากุระยังไม่บานไง โชคดีที่ Google Map แสนรู้ขึ้นไอคอนบอกเลยว่าตรงไหนบานแล้วควรไปชม เราก็เลยได้ไปแวะที่พาร์คนี้แทน แถมที่นี่เป็นซากุระพันธ์ุสีขาวด้วย แปลกตาไปอีกแบบ
02.Onuma Quasi-National Park
ใครที่ขับรถจะลงไป Hakodate สามารถแวะที่นี่ได้เป็นพาร์คขนาดเล็ก–กลาง มีให้พายเรือ และเดินTrekingไปตามทางร่มรื่นสวยงามดีแต่ไม่ได้มีอะไรมากนะ
03.Numa No Ie, ร้านขนมแป้งแบบเค็มและแบบถั่วแดง
แถวนี้ของกินหายากในช่วงที่เราไป แต่โชคดีเห็นคนมาต่อแถวซื้อขนมร้านนี้กัน เราก็เลยเอาด้วย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าขายอะไรจนถึงคิวตัวเอง ก็จิ้มๆ เอาตามคนอื่นเค้า ฮ่าๆ (ด้วยความตะกละ)
ปรากฎว่าเป็นคล้ายๆ แบบโมจิราดซอสแบบเค็มและแบบถั่วแดงอร่อยดีนะแต่ต้องแบ่งกันทานมีแต่แป้งและน้ำตาลจริง ๆ
สรุปว่า ทริปนี้เราเน้น ขับรถเที่ยวกับครอบครัว ที่พักดี กินอร่อยแบบบังเอิญ กิจกรรมนิดหน่อย เนอะ ดังนั้น เรื่องความปลอดภัยของคนในครอบครัวต้องมาที่ 1 เพราะเราไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง พวกเราเลยเลือกเดินทางกับ AXA INSURANCE ไม่ต้องห่วงเรื่องอุบัติเหตุต่างๆ สบายใจตลอดทริป
ขอบคุณข้อมูลจาก www.go-graph.com
