ค้นหาศูนย์บริการและสาขา เช็คราคา
icon-ask-question
ค้นหาศูนย์บริการและสาขา

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

อีเมลไม่ถูกต้อง

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

กรุณากรอกข้อมูล

แนวการแก้ปัญหา

แนวการแก้ปัญหา

หลายคนสงสัยว่าทำไมการเดินทางของเราจึงดูราบรื่นเสียเหลือเกิน ไม่เคยประสบพบเจอปัญหาระหว่างการเดินทางเลยหรือ ?

      ต้องขอบอกว่าถึงจะเดินทางมามากมายขนาดนี้แล้ว ปัญหาระหว่างทริปก็ยังเป็นสิ่งที่มาเยี่ยมเยียนเราทุกคราไป เรียกว่าไม่มีทริปไหนที่ไม่มีปัญหาเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเดินทางก็คือ การหาวิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้านั่นเอง

      เริ่มตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ อย่างเช่นการหลงทาง การขึ้นรถไม่ถูกสาย อ่านตัวหนังสือบ้านเขาไม่ออก ไปจนถึงปัญหาใหญ่โต อย่างเข้าประเทศไม่ได้หรือกระเป๋าเดินทางแตก !!! เราผ่านมาทั้งหมดแล้วอย่างโชกโชน

      ครั้งที่ร้ายแรงที่สุดคือตอนที่ Passport เราชำรุดที่รัสเซียนั่นแหละ ด้วยความที่ทริปนั้นเราเดินทางเป็นระยะเวลาค่อนข้างนาน ประมาณ 2 เดือนกว่า ๆ ทำให้ Passport เราถูกใช้อย่างหนักหน่วง มีครั้งหนึ่งที่เราถูกเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวม Passport ไปเพื่อนำไปตรวจสอบระหว่างนั่งรถไฟข้ามประเทศ แล้วเจ้าหน้าที่คงหวังดี เห็นเล่ม passport กำลังจะขาด เลยหวังดีช่วยแปะเทปใสให้เรา ซึ่งในคราวแรก

เราก็รู้สึกขอบคุณเจ้าหน้าที่อยู่เหมือนกัน จนเมื่อเรากำลังจะข้ามเมืองเพื่อไปเมือง Kaliningrad ของรัสเซียนั่นเอง

      เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองปฎิเสธการเข้าประเทศของเราเพราะว่าเทปใสที่ติดอยู่ที่ passport นั่นเอง เค้าให้เหตุผลว่า เป็น passport ชำรุด ไม่อนุญาตให้เข้าประเทศ แถมกักตัวเราอยู่ในห้องกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อเดินเรื่องเอกสาร

นั่นทำให้แผนการเดินทางของเราต้องเปลี่ยนไปหมด โชคยังพอมีบ้างที่เราซื้อซิมของประเทศลิธัวเนียเอาไว้ ทำให้สามารถใช้งาน Internet เพื่อ cancel โรงแรมใน Kaliningrad ได้ จากนั้นเราต้องพยายามหาทางต่อรถไปยังจุดหมายเราที่ประเทศโปแลนด์ให้ได้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องไปให้ทันใน 48 ชั่วโมง ไม่อย่างนั้น 10 วันสุดท้ายของทริปจะเป็นอะไรที่ลำบากมาก

      สุดท้ายแล้วเราต่อรถและเรือกว่า 4 ต่อ ใช้เวลาราว 20 ชั่วโมงในการไปถึงโปแลนด์แบบทุลักทุเล แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับเราเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทำให้เลเวลในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าของเราขึ้นมาหลายขีดเลย

      แต่เรายังโชคดีที่กรณี Passport ขาดของเราไม่ได้มาพร้อมกับเหตุการณ์กระเป๋าเดินทางแตก เพราะทริปถัดไปที่รัสเซียกระเป๋าเดินทางของเราก็เกิดแตกระหว่างการเดินทางเสียอย่างนั้น และไม่ใช่แตกธรรมดา แต่มันแตกอย่างสมบูรณ์คือแทบจะแยกออกเป็นเสี่ยง ๆ เลยทีเดียว

      แน่นอนว่าในกรณีนี้ถ้าเรามีประกันการเดินทาง เราสามารถเคลมค่ากระเป๋าเดินทางใบเก่าได้ แล้วก็ไปหาซื้อกระเป๋าใบใหม่มาใช้แทนกันได้เลย แต่ลองคิดดูสิว่าถ้าเกิดกระเป๋าแตกขึ้นมาระหว่างการเดินทาง 20 ชั่วโมง คงไม่ใช่เรื่องสนุกแน่นอน มองในแง่ดีก็นับว่าเรายังมีโชคอยู่บ้างที่มันไม่ได้เกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน

      ปัญหาคลาสสิคอีกอย่างหนึ่งก็คงไม่พ้นของโดนขโมย โดยเฉพาะเมื่อไปเมืองที่มีความเสี่ยงสูงหรือเมืองใหญ่เช่น ปารีส โรม บาร์เซโลน่า เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เราเองไม่เคยเจอกับตัวเองก็จริง แต่คนใกล้ตัวเราโดนมาหลายทีแล้ว และในกรณีที่เราถูกทำร้ายจากขโมยที่พยายามชิงทรัพย์เรา หลังจากเกิดเหตุ เราต้องแจ้งความกับตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน แล้วเราสามารถโทรปรึกษาเจ้าหน้าที่จากต่างประเทศได้เลย

      ในกรณีนี้ยังไงก็ต้องแจ้งกับตำรวจเอาไว้ก่อน แล้วจึงโทรหาทางประกันการเดินทาง เพราะเดี๋ยวนี้สามารถโทรปรึกษาจากต่างประเทศได้แล้ว สามารถขอคำปรึกษาได้เลยว่าควรจะทำอย่างไร ส่วนใหญ่หลังจากแจ้งความแล้วก็ให้เก็บใบแจ้งความเอาไว้ สามารถมารับเงินชดเชยคืนได้ ถึงบางครั้งจะไม่ได้คืนทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้คืนเลย ข้อสำคัญที่สุดคือต้องตั้งสติให้ดี ๆ เมื่อถูกขโมยของ เพราะยิ่งเราตื่นตระหนก จิตตก ยิ่งทำให้อะไร ๆ ดูแย่ลงไปอีก จนบางครั้งทำอะไรไม่ถูกจนจบทริปเลยก็มี

      และอันที่จริงก็ควรจะนึกไว้เสมอว่าปัญหากับการเดินทางมันเป็นของคู่กัน ใจเย็นแล้วค่อย ๆ แก้ปมไปทีละปม รับรองว่าไม่มีปัญหาไหนยากเกินแก้ไขแน่นอน