เคล็ดลับรับประทานวิตามินเสริมให้เป็น ไม่เกิดผลข้างเคียง

คนวัยทำงานที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพนิยมหันมาเลือกรับประทานวิตามินเสริมจำนวนมาก เป็นทางเลือกที่เกิดความสะดวกทั้งเวลา และการรับประทานอาหารบางอย่างอาจไม่ชอบกลิ่นและรสชาติแบบธรรมชาติ จึงขอกินในรูปของยาเม็ดหรือแคปซูลมากกว่า ลองมาดูกันว่าจะเลือกกินวิตามินให้เกิดผลต่อสุขภาพอย่างไรไม่ก่อให้เกิดโทษ

1.กินวิตามินตามผลเลือด 

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าสามารถเลือกซื้อวิตามินที่วางขายมารับประทานได้ตามใจตัวเอง แค่อ่านดูจากสรรพคุณว่ารักษาหรือป้องกันอะไรได้บ้าง แท้จริงแล้ว วิตามินที่ดีที่สุดในโลกและเหมาะกับเรามากที่สุดต้องมาจากผลการตรวจเลือดจะเป็นตัวบอกที่ดีที่สุด ไหน ๆ ก็จะเสียเงินซื้อวิตามินที่มีราคาแพงอยู่แล้ว น่าจะไปเจาะเลือดตรวจที่แผนกหรือศูนย์เวชศาสตร์ชะลอวัยตามโรงพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะวินิจฉัยค่าเลือดแล้วบอกได้ว่าระดับวิตามินและแร่ธาตุที่ควรเสริมเข้าไป  การตรวจเช่นนี้เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงของโรคที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงการยืดระยะเวลาเริ่มต้นของการเกิดความเสี่ยงของอวัยวะในร่างกาย

2.การเลือกซื้อวิตามิน

หากต้องไปซื้อตามแพทย์แนะนำ ต้องเข้าใจก่อนว่า วิตามินถูกแบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ “ยาอันตราย”แพทย์ หรือเภสัชกร เป็นผู้ควบคุมการจ่ายยาวิตามิน ต่อมาเป็นวิตามินที่เป็น “ยาบรรจุเสร็จ ที่ไม่ใช่ยาอันตรายหรือยาควบคุมพิเศษ” ยังคงจัดเป็นยา ในทางกฎหมายกำหนดช่องทางการกระจายยาอย่างเคร่งครัด ไม่สามารถซื้อในร้านขายยาได้ทุกร้าน และสุดท้ายเป็น “ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร” จะมีเครื่องหมาย อย. บนฉลาก วางจำหน่ายทั่วไป หากกินวิตามินแบบสุ่มสี่สุ่มห้า กลายเป็นกินผ่อนส่งให้ล้มป่วย

3. “วิตามิน” กับ “ยา” แตกต่างกัน

“ยา” คือ สิ่งที่ร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ เป็นสารเคมีที่ออกฤทธิ์ต่อร่างกาย เพื่อใช้ป้องกันโรค บำบัด บรรเทา และรักษาโรค เมื่อกินยารักษาอาการจนหายเป็นปกติก็ต้องหยุดยา ส่วน “วิตามิน”เป็นสารอาหารที่ร่างกายต้องการปริมาณน้อยแต่ขาดไม่ได้ หากขาดวิตะมินจะทำให้ระบบร่างกายผิดปกติเกิดโรคต่าง ๆ ขึ้นได้ ยิ่งการโฆษณาขายตรงวิตามินเสริมที่มองให้เป็นยาวิเศษ ถูกชวนเชื่อ บางคนกินยาตามหมอสั่งและวิตามินที่ซื้อกินเองควบคู่กันไปก็เหมือนตายผ่อนส่ง ยกตัวอย่าง หากกินยาฆ่าเชื้อคู่กับยาลดกรด และยังเสริมด้วยวิตามินบางชนิดที่อาจจะทำให้การดูดซึมของยาฆ่าเชื้อลดลง เป็นผลให้ฤทธิ์ของยาลดลง