Loading...
Loading...
ความเจ็บป่วยเป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้ อาจเกิดกับคุณได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่อากาศค่อนข้างแปรปรวน ดังนั้น การทำประกันสุขภาพ จึงเป็นการสร้างความมั่นใจและอุ่นใจในการดูแลตัวเองและลดความเสี่ยงเรื่องค่ารักษาพยาบาลได้ ดังนั้น เรามีคำแนะนำดีๆ เอาไว้ลองเปรียบเทียบดูว่าประกันสุขภาพแบบไหนที่เหมาะสมกับคุณบ้าง
1. ดูประวัติคนในครอบครัวของเรา ว่ามีใครเจ็บป่วยโรคร้ายแรงหรือโรคทางพันธุกรรมอะไรบ้าง
2. หากคุณเป็นพนักงานบริษัท หรือเป็นฟรีแลนซ์ ที่เป็นผู้ประกันตนเอง ลองเปรียบเทียบประกันสังคมที่เราจะได้รับ และดูว่ายังมีความต้องการอะไรที่ประกันสังคมยังขาดอยู่อีกบ้าง แล้วให้ประกันสุขภาพมาช่วยเติมเต็มในสิ่งที่ขาด
3. พิจารณาจากวิถีการดำเนินชีวิตหรือไลฟ์สไตล์ของตัวคุณเอง ว่ามีโอกาสเจ็บป่วยด้วยโรคอะไรบ้างหรือไม่
4. ดูเงินเก็บหรือรายรับของคุณ เพื่อเปรียบเทียบว่าเรามีเงินที่จะสามารถจ่ายประกันสุขภาพในแต่ละเดือนได้เท่าไหร่ และภายใต้จำนวนเงินนี้เราจะได้รับความคุ้มครองเรื่องอะไรบ้าง เช่น จำนวนค่ารักษาพยาบาลผู้ป่วยนอกต่อครั้ง ค่าใช้จ่ายในการนอนต่อคืน หรือเงินชดเชยเมื่อขาดรายได้กรณีที่เราต้องนอนโรงพยาบาลได้วันละเท่าไหร่ เป็นต้น
5. เผื่อเงินออมสำหรับกรณีที่ต้องซื้อประกันสุขภาพเพิ่มเอาไว้บ้าง เนื่องจากราคาค่าเบี้ยประกันจะเพิ่มตามอายุ หรือ เผื่อความคุ้มครองกรณีซื้อประกันสุขภาพโรคร้ายแรงเพิ่ม
และอีกหนึ่งสิทธิประโยชน์ที่ได้จากการซื้อประกันสุขภาพก็คือ สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ แต่ควรจะซื้อช่วงเวลาไหนดี? คำตอบที่อยากฝากให้พิจารณาคือ ไม่ควรซื้อในช่วงเวลาที่กระชั้นชิดของเวลาการจ่ายภาษีมากจนเกินไป เพราะบริษัทประกันอาจจะต้องใช้เวลาดำเนินการเพื่ออนุมัติระยะหนึ่ง ซึ่งถ้าหากตัดสินใจช้าก็อาจจะซื้อประกันได้ไม่ทันปลายปีก็ได้ ดังนั้น จะดีกว่าหากต้องการจะซื้อประกันสุขภาพเพื่อลดหย่อนภาษี ก็ควรซื้อก่อนวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปีเป็นการดีที่สุด
หากสนใจที่จะซื้อประกัน หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการลดหย่อนภาษี สามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.axa.co.th
Keeping our customers happy is what we're all about!
Customer happiness is central to our business.
สถาบันมะเร็งแห่งชาติ (National Cancer Institute) รายงานโรงมะเร็ง (cancer) ที่พบในเพศหญิง ที่มาทำการตรวจและรักษา ที่พบมากที่สุดในผู้หญิง 5 อันดับแรกมีอะไรบ้าง
สุขภาพที่ดีต้องเริ่มดูแลจากภายใน ยิ่งรับผิดชอบตัวเองมากขึ้น ก็จะเห็นการเปลี่ยนแปลงของร่างกายและสภาพจิตใจในทางที่ดีขึ้นมากเท่านั้น หากละเลยไม่ดูแลตัวเอง สุขภาพก็จะทรุดโทรมทีละน้อย ลองดูทริกง่าย ๆ ในการหมั่นดูแลตัวเอง