8 สิ่งห้ามลืมเช็ครถก่อนเดินทางไกล จะไปไหนก็หายห่วง

ไม่ว่ารถยนต์คันที่ขับจะมีสภาพเก่าหรือใหม่ การใช้ขับขี่เดินทางท่องเที่ยวในวันหยุดยาวควรมีการตรวจเช็คสภาพรถอย่างละเอียด  ลองมาดูกันมีอะไรที่ต้องตรวจสอบ

1.การตรวจเช็คยางและลมยาง ทั้งหน้ายาง แก้มยาง ต้องไม่มีรอยฉีกขาด ส่วนดอกยางให้ดูความลึก หากเหลือความลึกเพียง 1.6 มิลลิเมตร ควรเปลี่ยนยางเส้นใหม่ ส่วนลมยางต้องวัดค่าให้อยู่ในมาตรฐานของรถคันนั้น ๆ และควรเติมลมยางอะไหล่ไว้ด้วย

2.ตรวจสอบระบบเบรค ให้ดูที่ “ผ้าเบรก” ยังใช้ได้ดีต้องมีความหนาของเนื้อผ้าเบรครวม BACKING PLATE (แผ่นเหล็กประกบหลังผ้าเบรค) ไม่น้อยกว่า 7 มิลลิเมตร หากผ้าเบรกบางกว่านี้ควรเปลี่ยนทิ้งทันที

3.การตรวจระดับน้ำมันเครื่องที่ถูกต้อง ให้แน่ใจว่าจะมีน้ำมันเพียงพอในการหล่อลื่นเครื่องยนต์ทั้งระบบ ให้จอดรถในสภาพแนวระนาบ เปิดฝากระโปรงรถยนต์แล้วดึงก้านวัดน้ำมันเครื่องออกมา ใช้กระดาษทิชชู่เช็ดก้านวัดให้แห้ง ก่อนเสียบลงช่องน้ำมันเครื่องให้เต็มก้านแล้วดึงก้านวัดออกมาอีกครั้ง ตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องที่ปลายก้านวัด ถ้าระดับน้ำมันเครื่องอยู่ระหว่างขีด F กับ L หรือ Max กับ Min แสดงว่าน้ำมันเครื่องอยู่ในระดับปกติ 

4.การเช็คระบบหล่อเย็นในรถ รอให้เครื่องยนต์เย็นลงก่อน จากนั้นตรวจระดับน้ำในหม้อพักน้ำ อยู่ระหว่างขีดระดับ FULL  และขีดระดับต่ำ LOW หากน้ำมีระดับต่ำกว่าขีด LOW ให้เติมน้ำยาหล่อเย็นให้อยู่ในระดับ FULL ควรใช้น้ำยาหล่อเย็นชนิดเดียวกับที่เติมอยู่ก่อน  หากหาน้ำยาหล่อเย็นไม่ได้ ให้เทน้ำกลั่นหรือน้ำประปาที่สะอาดแทนได้

5.แบตเตอรี่เป็นแหล่งจ่ายพลังงานในรถยนต์ ให้ตรวจสอบว่าแบตจะเสื่อมหรือไม่ เช่น เริ่มสตาร์ทรถยากขึ้น ความสว่างของไฟหน้ารถยนต์ลดลง หรือกระจกไฟฟ้าทำงานช้าลง รวมทั้งการนับระยะเวลาของแบตเตอรี่ที่ใช้งานมาร่วมปีครึ่งจนถึง 2 ปี หมายความว่าเริ่มหมดอายุ หากวัดค่าโวลต์แล้วอ่อนลงเกินเกณฑ์ ให้เปลี่ยนใหม่ทันที

6.การตรวจสอบไฟทุกดวงของรถยนต์